โรคชันนะตุ คืออะไร สาเหตุ อาการและวิธีรักษาป้องกันทำได้อย่างไรบ้าง
หลายคนอาจมีอาการคันศีรษะและมีหนังศีรษะหลุดร่วงเป็นสะเก็ด รวมถึงมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ อาจจะต้องให้ความใส่ใจกับอาการนี้ให้มากขึ้น เพราะอาจมีโอกาสเป็นชันนะตุที่เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ทำให้ผิวหนังอักเสบและมีอาการคันอย่างมาก ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคผิวหนังดังกล่าวกันให้มากขึ้นว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และมีแนวทางในการรักษาอย่างไรบ้าง
ชันนะตุ คืออะไร
ชันนะตุเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่มักพบในเด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโรคที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยโรคนี้จะมีอาการแสดงที่สำคัญคือ มีอาการคันบริเวณศีรษะอย่างมาก ผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดง หนังศีรษะตกสะเก็ดเป็นแผ่นหรือเป็นจุดกลมๆ มีอาการบวม เป็นตุ่มหนองที่กดแล้วรู้สึกเจ็บ และจะสังเกตเห็นว่าบริเวณที่เป็นนั้นจะมีผมร่วงเป็นหย่อม เส้นผมเปราะหัก ขาดง่าย บางคนอาจมีผิวหนังเป็นแผ่นเกล็ดหนา มีสีเหลืองหรือน้ำตาล ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่รักษาและปล่อยให้เป็นมากขึ้นก็จะทำให้ผมร่วงถาวรและมีรอยแผลเป็นทิ้งไว้บริเวณที่เป็นโรคดังกล่าว
สาเหตุของชันนะตุ
ชันนะตุมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราเดอมาโทไฟต์ ที่เป็นชนิดเดียวกับที่เป็นสาเหตุของโรคกลาก ซึ่งเชื้อราประเภทนี้มักจะเติบโตได้ดีบนเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว อย่างเช่น ผิวหนังชั้นนอก, เล็บและเส้นผม และเมื่อมีความชุ่มชื้นอบอุ่นก็จะยิ่งเป็นส่วนที่ส่งเสริมให้เชื้อรามีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นคนที่มักมีเหงื่อออกมาก, อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แออัด และไม่ค่อยรักษาสุขภาวะอนามัยของตนเองก็จะทำให้มีโอกาสเป็นชันนะตุได้มาก ทั้งนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรวมถึงสัตว์อย่างเช่น สุนัขและแมวที่สามารถนำพาเชื้อโรคนี้มาติดยังมนุษย์ได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ เชื้อราเดอมาโทไฟต์ยังทำให้เกิดโรคชันนะตุได้ในผิวหนังบริเวณที่มีการสร้างน้ำมันเป็นจำนวนมาก เช่น เปลือกตา, จมูก, ริมฝีปาก หรือใบหู รวมทั้งศีรษะที่มีความมันมาก
ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นชันนะตุ
- เด็กเล็ก วัยประมาณ 6-12 ปี ที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนที่มีการเล่นและการสัมผัสกับเด็กคนอื่นๆ อยู่ตลอด
- ผู้ที่สัมผัสสุนัขหรือแมวที่มีเชื้อโรคนี้
- ผู้อาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่อบอุ่นและร้อนชื้น
- ผู้ที่ไม่ค่อยได้อาบน้ำ สระผม และมีเหงื่อออกมาก
- ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีภาวะโภชนาการที่ไม่ดี
วิธีรักษาโรคชันนะตุ
การรักษาโรคชันนะตุนั้น อาจจะต้องเริ่มต้นด้วยการไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาและทำการวินิจฉัยร่วมกับการประเมินอาการตามที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ ซึ่งบางกรณีแพทย์อาจจะต้องส่งตรวจตัวอย่างที่เก็บได้จากเส้นผมหรือหนังศีรษะเพื่อยืนยันการติดเชื้อได้อย่างชัดเจน จะได้เป็นแนวทางในการให้ยาและให้แนวทางการรักษาในลำดับต่อไป
วิธีการรักษาชันนะตุประกอบไปด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อราที่จะต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์จนกว่าจะหายขาด และแพทย์จะแนะนำให้ใช้แชมพูสำหรับฆ่าเชื้อราร่วมด้วย โดยส่วนประกอบของแชมพูจะมีสารต้านเชื้อราอย่างคีโตโคนาโซลหรือซีลีเนียมซัลไฟด์ที่จะต้องชโลมทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 5 นาทีแล้วค่อยล้างออก ซึ่งจะต้องใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือนร่วมกับการรับประทานยา เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีป้องกันชันนะตุ ทำได้อย่างไร
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคชันนะตุสามารถทำได้ โดยวิธีการดังต่อไปนี้
- รักษาสุขอนามัยของตนเอง หมั่นอาบน้ำ สระผมให้สะอาด หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ
- หลีกเลี่ยงการใช้เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยสามารถสังเกตได้จากขนสัตว์ที่ร่วงเป็นหย่อม ผิวหนังมีเชื้อรา มีอาการคัน หากสัมผัสไปแล้วให้ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด
- ในช่วงที่อากาศร้อน หรืออยู่ในภูมิภาคที่ร้อนชื้น อาจตัดผมให้สั้นเพื่อที่จะได้ดูแลได้ง่ายขึ้น ลดการสะสมเหงื่อ
โรคชันนะตุนั้นเป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่เฉพาะในเด็กเล็กเท่านั้น เพราะในผู้ใหญ่ที่ดูแลสุขอนามัยของตนเองไม่ดี หรือมีภูมิต้านทานต่ำก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะได้ดูแลรักษาเสียตั้งแต่แรก ก่อนที่อาการจะเป็นมากและลุกลามเป็นพื้นที่กว้างจนอาจกลายเป็นแผลเป็นหรือผมร่วงถาวรได้