ต่อมน้ำเหลืองโต โรคร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกแวลา
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงไม่เคยคุ้นชื่อโรคต่อมน้ำเหลืองโต อีกหนึ่งโรคร้ายที่อยากให้ลองทำความเข้าใจกันมากขึ้น เพราะเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หากไม่ใส่ใจหรือสังเกตตัวเองให้ดี ต่อมน้ำเหลืองโตก็จะมาเยือนทันที สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก บทความนี้มีคำตอบ
ต่อมน้ำเหลือง คืออะไร
อวัยวะขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วทั้งร่างกาย เชื่อมต่อเป็นสายเดียวกัน มีหน้าที่ลำเลียงของเหลวภายในร่างกายผ่านท่อที่เชื่อมต่อกัน หรือเรียกอีกอย่างว่าน้ำเหลืองที่มีสถานะเป็นของเหลว หากจะให้กล่าวหน้าที่ของต่อมน้ำเหลืองกันตรง ๆ ก็คือต่อมน้ำเหลืองเป็นอวัยวะขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมคุ้มกัน กล่าวคือน้ำเหลืองในรูปแบบของเหลวจะวิ่งไปทั่วทั่งร่างกายเพื่อแลกเปลี่ยนของเหลวในแต่ละส่วน เพื่อตรวจจับหาสิ่งผิดปกติ เช่น มะเร็ง, อาการบาดเจ็บต่าง ๆ รวมถึงอาการติดเชื้อ ดังนั้นปริมาณของต่อมน้ำเหลืองในแต่ละคนจะอยู่ที่ระดับร้อยตำแหน่ง ไม่สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ นอกจากจะเกิดอาการผิดปกติ
ต่อมน้ำเหลืองโต มีลักษณะอย่างไร
โดยปกติหากต่อมน้ำเหลืองของเราสามารถตรวจพบเชื้อโรคหรือสิ่งผิดปกติในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นจุดใดจุดหนึ่งที่ตำแหน่งของต่อมน้ำเหลืองวางตัวอยู่ หากพบอาการผิดปกติ ต่อมน้ำเหลืองในตำแหน่งดังกล่าวก็จะโตหรือขยายขึ้นทันที เรียกว่าอาการต่อมน้ำเหลืองโต ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของเราได้
วิธีเช็คอาการต่อมน้ำเหลืองโต
- ขนาดต่อมน้ำเหลืองโต มีขนาดพอ ๆ กับเม็ดถั่วแดง ถั่วลันเตา หรืออาจใหญ่กว่านี้ได้
- หากกดจะรู้สึกเจ็บ โดยเฉพาะตำแหน่งต่อมน้ำเหลือง
- สามารถพบอาการบวมแดงได้ทันที หากสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงก้อนบวมโต
ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองโต
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองทำหน้าที่ในการตรวจจับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม คือ ท่อขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกัน นับไม่ถ้วน ส่งต่อของเหลวไปยังตำแหน่งนับร้อย ๆ ในร่างกาย โดยภายในของเหลวหรือน้ำเหลืองที่วิ่งผ่านต่อมน้ำเหลืองจุดต่าง ๆ นั้น ภายในน้ำเหลืองนอกจากสารอาหารแล้ว ยังมีเซลล์เม็ดเลือดขาวปะปนอยู่ภายในอีกด้วย แล้วปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตได้ด้วยเช่นกัน
- มีไข้ เช่น น้ำมูกไหล เจ็บคอ หรือมีอาการทางเดินหายใจ อาการดังกล่าวอาจส่งผลทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต บริเวณลำคอได้ เช่นกัน
- ปัจจัยจากเนื้องอกก็สามารถทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตได้เช่นกัน ลักษณะคือแข็ง เคลื่อนที่ไม่ได้ ขยายตัวค่อนข้างเร็ว
- ต่อมน้ำเหลืองสามารถโตได้เช่นกัน หากผู้ป่วยมีอาการหลังเหงื่อหรือเหงื่ออกเวลากลางคืน
วิธีรักษาอาการต่อมน้ำเหลืองโต
หากเข้าใจหน้าที่ของต่อมน้ำเหลืองและปัจจัยที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต จะสามารถรักษาอาการผิดปกติตามอาการได้ทันที เช่น อาการผิดปกติจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส หากรักษาถูกต้อง เชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสก็จะหายไป ต่อมน้ำเหลืองก็จะค่อย ๆ ขยายลงกลับสู่สภาพเดิมได้เช่นกัน
สังเกตอาการผิดปกติของต่อมน้ำเหลืองโตอย่างไร
ผู้ป่วยรวมถึงใครหลาย ๆ คนมักจะไม่ค่อยให้ความสนใจมากเท่าใดนัก แต่รู้หรือไม่? ต่อมน้ำเหลือโต แบบผิดปกตินั้นก็มีเช่นกัน ดังนี้
- ต่อมน้ำเหลืองโตอย่างต่อเนื่อง ภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- ต่อมน้ำเหลืองโตแบบไม่ทราบสาเหตุ
- ต่อมน้ำเหลืองโต พร้อมกับมีไข้ร่วมด้วย น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ เหงื่อออกตอนกลางคืน
- ต่อมน้ำเหลืองมีลักษณะแข็ง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
หากพบอาการดังกล่าวมีโอกาสที่จะป่วยเพราะโรคต่าง ๆ ได้มากกว่าโรคทั่วไป เช่น ติดเชื้อในหู, HIV, โรคทางผิวหนัง และวัณโรค เป็นต้น
ทำความรู้จักโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ต่อมน้ำเหลืองประกอบไปด้วยสารถอาหาร รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวในรูปแบบของเหลว ดังนั้นหากเซลล์เม็ดเลือดขาว เกิดความผิดปกติเมื่อใดก็ตาม โอกาสที่จะเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีสูงและเป็นอันตรายมาก เพราะน้ำเหลืองมีอยู่ทั่วทั้งร่างกาย รวมถึงอวัยวะที่สำคัญ เช่น ไขกระดูกและม้าม เป็นต้น
หลีกเลี่ยงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ?
ปัจจุบันโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ยังไม่สามารถหาสาเหตุหรือปัจจัยการเกิดมะเร็งได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงได้ คือ
- ทางพันธุกรรม
- ปัจจัยทางเคมีที่อาจส่งผลทำให้เกิดมะเร็ง
- ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง เช่น โรคเอดส์, โรคข้ออักเสบ หรืออยู่ระหว่างปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น
สังเกตอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอย่างไร ?
ต่อมน้ำเหลืองโตนับเป็นกลไกที่ร่างกายสามารถเตือนให้รู้ได้ว่า เมื่อใดที่ร่างกายของเรากำลังผิดปกติ สำหรับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หากสังเกตร่างกายดี ๆ จะพบก้อนเนื้อบริเวณที่ต่อมน้ำเหลืองวางตำแหน่งอยู่บริเวณขาหนีบ, รักแร้ และคอ วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ก้อนมะเร็งจะไม่เจ็บ ซึ่งต่างจากก้อนเนื้อที่อักเสบเนื่องจากติดเชื้อ นอกจากพบก้อนเนื้อแล้วจะน้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ หายใจลำบาก มีอาการปวดศีรษะ แนะนำพบแพทย์ เนื่องจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก สามารถรักษาให้หายขาดได้
ต่อมน้ำเหลืองโตเป็นอีกหนึ่งอาการที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะบางทีสัญญาณที่ต่อมน้ำเหลืองโตกำลังทำงาน อาจกำลังบ่งบอกโรคที่อันตรายอยู่ วิธีเบื้องต้นในการป้องกันต่อมน้ำเหลืองโต คือ หมั่นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำความสะอาดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่สามารถกระตุ้นทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตได้ หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หากต่อมน้ำเหลืองโต สามารถบรรเทาเบื้องต้นด้วยการประคบร้อนหรือรับประทานยาประเภทพาราเซตามอนที่สามารถลดปวดได้